ความแตกต่างระหว่าง LED ทั่วไปกับ LED COB มีอะไรบ้าง?

ก่อนอื่น จำเป็นต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ LED แบบติดตั้งบนพื้นผิว (SMD) ซึ่งปัจจุบันเป็น LED ที่ใช้กันมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ชิป LED จึงถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในแผงวงจรพิมพ์ และแม้กระทั่งในไฟแจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟน หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของชิป LED แบบ SMD คือจำนวนการเชื่อมต่อและไดโอด

บนชิป LED แบบ SMD สามารถมีการเชื่อมต่อได้มากกว่าสองจุดเชื่อมต่อ ชิปหนึ่งตัวสามารถมีไดโอดได้สูงสุดสามตัวที่มีวงจรอิสระต่อกัน แต่ละวงจรมีขั้วบวกและขั้วลบ ทำให้มีการเชื่อมต่อบนชิป 2, 4 หรือ 6 จุดเชื่อมต่อ

ความแตกต่างระหว่าง LED COB และ LED SMD
ชิป LED SMD หนึ่งตัวสามารถมีไดโอดได้สูงสุดสามตัว โดยแต่ละตัวมีวงจรของตัวเอง แต่ละวงจรในชิปดังกล่าวมีแคโทดและแอโนด ทำให้มีการเชื่อมต่อ 2, 4 หรือ 6 จุด ชิป COB มักจะมีไดโอดเก้าตัวหรือมากกว่า นอกจากนี้ ชิป COB ยังมีการเชื่อมต่อสองจุดและวงจรหนึ่งวงจรโดยไม่คำนึงถึงจำนวนไดโอด ด้วยการออกแบบวงจรที่เรียบง่ายนี้ ไฟ LED COB จึงมีลักษณะเหมือนแผง ในขณะที่ไฟ LED SMD มีลักษณะเหมือนกลุ่มไฟขนาดเล็ก

ชิป LED แบบ SMD สามารถมีไดโอดสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงินได้ การเปลี่ยนระดับเอาต์พุตของไดโอดทั้งสามตัวสามารถสร้างเฉดสีต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หลอดไฟ LED แบบ COB จะมีหน้าสัมผัสเพียงสองจุดและวงจรไฟฟ้า ไม่สามารถผลิตหลอดไฟหรือหลอดไฟเปลี่ยนสีได้ จำเป็นต้องมีการปรับหลายช่องสัญญาณเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์การเปลี่ยนสี ดังนั้น หลอดไฟ LED แบบ COB จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการเฉดสีเดียว แทนที่จะใช้หลายสี

ชิป SMD มีช่วงความสว่างที่ 50 ถึง 100 ลูเมนต่อวัตต์ ชิป COB ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพความร้อนสูงและอัตราส่วนลูเมนต่อวัตต์ หากชิป COB มีความสว่างอย่างน้อย 80 ลูเมนต่อวัตต์ จะสามารถเปล่งแสงได้มากขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง ชิป COB สามารถนำไปใช้งานได้กับหลอดไฟและอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น แฟลชโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูป

นอกจากนี้ ชิป LED SMD ยังต้องการแหล่งพลังงานภายนอกขนาดเล็กกว่า ในขณะที่ชิป LED COB ยังต้องการแหล่งพลังงานภายนอกขนาดใหญ่กว่า

微信Image_20241119002941

เวลาโพสต์: 18 พ.ย. 2567